วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เงินวอน

ค่าเงิน เกาหลี เงินวอน

สัญลักษณ์ ₩, ภาษาเกาหลี 원, won

ค่าเงิน เกาหลี เงินวอน

십 원
อ่านว่า ชิ-บวอน
แปลว่า 10 วอน

오 십 원
อ่านว่า โอ-ชิ-บวอน
แปลว่า 50 วอน

백 원
อ่านว่า เบ-กวอน
แปลว่า 100 วอน

오 백 원
อ่านว่า โอ-เบ-กวอน
แปลว่า 500 วอน

천 원
อ่านว่า ชอ-นวอน
แปลว่า 1,000 วอน

오 천 원
อ่านว่า โอ-ชอ-นวอน
แปลว่า 5,000 วอน

만 원
อ่านว่า มา-นวอน
แปลว่า 10,000 วอน

โรงแรมและที่พัก

โซล

ด้วยการ ร่วมมือกับโรงแรม เช่น Ibis Seoul Hotel และ Kyung Nam Hotel Agoda.co.th บริษัทผู้ให้บริการเว็บไซต์สำรองห้องพักในเอเชีย จึงยินดีรับประกันราคาห้องพักถูกที่สุด ลูกค้าสามารถประหยัดเมื่อเข้าพักในโรงแรมใกล้แห่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น Seoul - Incheon Intl airport และ Gimpo International airport ด้วยราคาห้องพักของเราซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้วยข้อเสนอชั้นยอดในโรงแรม เช่น Yims House Hotel ราคา $28 จึงมีนักเดินทางกว่า 1,000,000 คนเลือกใช้บริการของ Agoda.co.th เพื่อสำรองห้องพักราคาประหยัดในสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โซล เรามีโรงแรมในโซลให้เลือกมากมาย ตั้งแต่โรงแรมราคาย่อมเยา เช่น Prince Hotel ไปจนถึงโรงแรมสุดหรูหรา เช่น JW Marriott Hotel โดยเริ่มต้นที่ราคาต่ำสุด $28 Agoda.co.th เป็นเว็บไซต์ที่เคยชนะรางวัล อีกทั้งยังมีความรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมข้อมูลมากมายของสถานที่สำคัญ เช่น Jongmyo Shrine และพื้นที่ต่างๆ เช่น Other รวมถึงมีโรงแรมในโซลให้เลือกหลายแห่ง โดยราคาเริ่มต้นที่$9 นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการลูกค้าที่ยินดีจะตอบคำถามของท่านตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง Agoda.co.th เว็บไซต์ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการสำรองห้องพักที่โรงแรมในโซล ได้กลายมาเป็นสมาชิกที่สำคัญ
ของเว็บไซต์ท่องเที่ยว Priceline.com

ภาพถ่าย

Ramada Hotel & Suites โซล - Deluxe Double Room
Deluxe Double Room
Ramada Hotel & Suites โซล - Deluxe Twin Room
Deluxe Twin Room



Ramada Hotel & Suites โซล - Deluxe Twin Room
Deluxe Twin Room
Ramada Hotel & Suites โซล - Junior Suite
Junior Suite



Ramada Hotel & Suites โซล - Junior Suite Bathroom
Junior Suite Bathroom
Ramada Hotel & Suites โซล - Suite
Suite



Ramada Hotel & Suites โซล - Superior Twin Room
Superior Twin Room
Ramada Hotel & Suites โซล - Superior Twin Room
Superior Twin Room



Ramada Hotel & Suites โซล ข้อมูล

โรงแรมระดับ 4-ดาว แห่งนี้ให้บริการห้องพัก 299 ห้อง ซึ่งได้รับการตกแต่งให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทุกห้องมี ห้องปลอดบุหรี่, เครื่องปรับอากาศ, เสื้อคลุมอาบน้ำ, หนังสือพิมพ์รายวัน, ภาพยนตร์ชมในห้องพัก เพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่การเข้าพัก นอกเหนือจากนั้น ยังมี รูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง, ร้านค้า, ลิฟท์, คอฟฟี่ช็อป, บริการซักรีด/ซักแห้ง รวมถึงมีบริการนวด, ห้องฟิตเนส, ซาวน่า, สปา, สวน สำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจ ด้วยทำเลที่ตั้งอันเหมาะสม พนักงานที่ทุ่มเทให้กับการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศ ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว จองห้องพักที่ Ramada Hotel & Suites ในโซล ได้อย่างง่ายๆ ด้วยแบบฟอร์มการจองทางออนไลน์ที่เชื่อถือได้ของเรา เพียงระบุวันที่คุณต้องการ


วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เกาหลี ใต้ (South Korea)


เกาหลีเป็นเมืองน่าเที่ยว เป็นเมืองที่ยังคงวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่ก็เปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ พร้อมความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมมาก
แต่ที่กำลังมาแรงและ “บูม” มากที่สุด ก็คือ การท่องเที่ยวที่ผู้ชมละครซีรีส์เกาหลี ต่างได้รับอิทธิพลมาจาก “กระแสเกาหลี” ในบทภาพยนตร์และดนตรี จนทำให้มีผู้ “ถวิลหา” ที่จะเดินทางไปเยือนสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วยความสวยงามของบรรยากาศและภูมิประเทศ ที่ปรากฏใน “ซีรีส์เกาหลี” นั่นเอง
ช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการเที่ยวเกาหลีจะเริ่มต้น จากฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาวที่เล่นสกีได้ เริ่มขึ้นจากตอนปลายเดือนกันยายน ลมที่พัดมาจากแผ่นดินใหญ่นั้นทำให้อากาศแห้งและท้องฟ้าโปร่ง จึงเป็นช่วงที่อากาศเหมาะกับการท่องเที่ยวมากที่สุด ในเดือนตุลาคม ทิวทัศน์ทั่วทั้งประเทศจะมีสีสันสดใสด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีทองและสีแดง เต็มต้น
จากภูมิประเทศที่แตกต่างทำให้สภาพอากาศแตกต่างและ เปลี่ยนแปลงไป การไปเที่ยวเกาหลีจะต้องระมัดระวังอย่างมากในเรื่องการแต่งกาย ต้องเตรียมพร้อมรับทุกสภาพอากาศตั้งแต่ร้อนไปจนถึงหิมะ จึงต้องสำรวจระยะเวลาในการเดินทางให้ดี เพื่อจัดเครื่องแต่งกายได้เหมาะสม
หากเดินทางไปเที่ยวในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงปลาย เดือนพฤษภาคมและเดือนกันยายน-พฤศจิกายน สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงและอาจสวมเสื้อหนาวทับ ระหว่างฤดูร้อน เดือนมิถุนายน-สิงหาคม สามารถสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นและกางเกงระดับเข่า แต่ในโอกาสสำคัญควรสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงขายาว




ยามฤดูหนาวหิมะตก



ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนมีนาคม ต้องพร้อมที่จะเผชิญกับฤดูหนาวผ้าพันคอและถุงมือจำเป็นสำหรับในเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์อากาศจะหนาวเย็นและแห้ง บางครั้งมีฝนหรือหิมะ ในช่วงนี้มักจะมีวันที่อากาศหนาวจัดสลับกับวันที่อากาศอุ่นสบาย
เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว อุทยานแห่งชาติโซรัค ซาน หรือสวิตเซอร์แลนด์ของเกาหล อุทยานที่มีหน้าผา หุบเขาและลำธาร ความงามของธรรมชาติอันสวยงามของจังหวัดคังวันโดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ที่นี่มีลานสกี รีสอร์ท ให้ได้สัมผัสประสบ การณ์แปลกใหม่ด้วยการทดลองเล่นสกี นับเป็นลานสกีที่มีผู้คนนิยมเดินทางไปเล่นกันมากอีกแห่งหนึ่ง พร้อมเครื่องเล่นนานาชนิดที่เกี่ยวกับการเล่นหิมะไม่ว่าจะเป็น Snow Slade, Snow Board และอื่นๆ อีกมากมาย
การเที่ยวเมืองใหญ่ที่เกาหลี ทั้งสะดวกและสบายที่สุด โดยเฉพาะกรุงโซลที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำฮานกัง เมืองหลวงของเกาหลี เมืองที่มีทั้ง ความเก่าแก่และความใหม่ในคราวเดียวกัน ด้วยการที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานสืบต่อมาหลายพันปีจึงได้มีพระราชวังที่ ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี อนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ และสมบัติทางวัฒนธรรม แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบสาธารณูปโภคอันล้ำยุคเช่นเดียวกัน




พระราชวังอินชองเชิน














เกาหลีมีสมบัติมรกดโลกทางวัฒนธรรมของเกาหลีในบัญชีมรดกทางวัฒนธรรมของโลก โดยองค์การยูเนสโก คือ หมู่พระราชวังชางด็อกกุง (Changedeokgung Palace Complex)
ชางด็อกกุง เป็นพระราชวังแห่งคุณความดีอันลือนาม (Changdeokgung, the Palace of Illustrious Virtue) ชางด็อกกุงถูกสร้างในปีที่ 5 แห่งรัชสมัยของกษัตริย์แตจอง (Taejong) แห่งราชวงศ์โชซอนติดกับพระราชวังเคียงบกกุงราชวังหลักของราชวงศ์
หมู่ราชวังของชางด็อกกุง ซึ่งได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดีแบ่งเป็นส่วนบริหาร ส่วนที่พักอาศัยและอุทยานทางด้านหลัง (Huwon) บริเวณที่เป็นส่วนบริหารนั้น รวมเอาประตูดอนฮวนเข้าไว้ด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่ ราช วังอินชองเชิน (Injeongjeon) ใช้เป็นท้องพระโรงและซอนชองเชิง (Soenjeongjeon) โถงสำหรับบริหาร
ส่วนที่เป็นที่พักอาศัย รวมถึงฮุยชองดัง (Huijeongdang) และแทโชเชิน (Daejojeon) ห้องบรรทมของกษัตริย์และพระชายา โรงครัวหลวง ห้องพยาบาลและส่วนต่อเนื่องอื่นๆ ฮูวอนอุทยานด้านหลังอันลือชื่อ กับพลับพลาที่สง่างามอีกมากมาย ห้องเก็บหนังสือของพระราชสำนักกับห้องสมุดและสระบัวอันร่มรื่น
ชางด็อกกุง กลืนเข้ากับทัศนียภาพด้านหลังได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นพื้นที่ลาดเนินเขาและหมู่แมกไม้อันเขียวขจี ด้วยความที่ได้เปรียบในด้านสิ่งแวดล้อมท้องพระโรงที่โอ่อ่า
พลับพลาและอุทยานฮูวอน (Huwon) ได้มีการวางตำแหน่งให้เป็นสัดส่วนอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้เป็นไข่มุกแห่งสถาปัตยกรรมของราชวังและทัวทัศน์ของอุทยาน อุทยานฮูวอนประดับประดาด้วยต้นไม้มีค่า บางต้นมีอายุถึง 300 ปี จึงทำให้เป็นตัวแทนแห่งสรวงสวรรค์ของสวนเกาหลี กษัตริย์และราชนิกุล พร้อมทั้งข้าราชสำนักต่างชื่นชอบที่จะมาพักผ่อนและหาความสำราญที่อุทยานแห่ง นี้
องค์การยูเนสโกได้ขึ้นบัญชีแหล่งประวัติศาสตร์ในเขตเกียงชู (Gyeongju) และสวนแท่นหินที่โกชาง (Gochang) ฮวาซุน (Hwasun) และกังฮวา (Ganghwa Dolmen) ในบัญชีมรดกทางวัฒนธรรมของโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อคราวประชุมคณะกรรมการ มรดกโลกครั้งที่ 24 ที่เมืองแคร์นส์ (Cairns) ประเทศออสเตรเลีย เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 2 ธันวาคม ปี2000 ต่อจากวัดบุลกกุกซา (Bulguksa Temple)
ถ้ำซอกกูรัม (Soekguran Grotto) อารามหลวงจองเมียว (Jongmyo Royal Shrine) แท่นพิมพ์ไม้ ตริปิทาก้า โคเรียน่า พระไตรปฎกของเก่าหลี (Tripitaka Koreana) ที่วัดแฮอินซา (Haeinsa Temple) และสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในปี 1995
ปัจจุบัน เกาหลีมีแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก 7 แห่ง
วัดวาอารามก็เป็นจุดที่น่าสนใจอย่างอารามหลวงจองเมียว (Jongmyo Royal Shrine) อารามหลวงจองเมียงสร้างขึ้นเพื่อเป็นการอุทิศให้แก่ดวงพระวิญญาณแห่งบูรพ กษัตริย์ของราชวงศ์โชซอน ณ ที่นี้กษัตริย์ และบรรดาพระราชวงศานุวงศ์จะมาทำการสักการะแด่บรรพบุรุษตามแบบลัทธิขงจื้อ
อารามอันสง่างามแห่งนี้ซึ่งเป็นผลงานของสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างเรียบง่าย ได้รับความเห็นชอบให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันหาค่ามิได้ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1995
เกาหลีได้เปิดการท่องเที่ยวแบบการพักอาศัยในวัดศาสนาพุทธเกาหลีนิกายจอกเย และชอนแต เสนอโอกาสให้ผู้มาเยือนจากนานาชาติได้พักและเข้าร่วมชีวิตในวัดกับพระและชี ภายใต้โปรแกรมการค้างคืนในวัดมี 14 วัดสำคัญทั่วประเทศเข้าร่วมโปรแกรม
โดยโปรแกรมลักษณะต่างๆ สำหรับชาวต่างชาติคือการนั่งสมาธิแบบเซน การกินอาหารแบบพระเรียกว่า บารูกอง-ยาง พิธีดื่มชา ศิลปะการต่อสู้ของพุทธเรียกว่าซุนมูโด
การพักอาศัยในวัดนี้มีเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับพุทธวัฒนธรรม ของเกาหลี อย่างไรก็ตาม รายการดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว






“เอเวอร์แลนด์” ดิสนีย์แลนด์เกาหลี
“เอเวอร์แลนด์” สวนสนุกกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ซึ่งถูกขนามนามว่าเป็น “ดิสนีย์แลนด์เกาหลี” เติมเต็มความสุขด้วยบัตร BIG 5 สามารถเลือกเล่นเครื่องเล่นได้ฟรี 5 ชนิด แล้วท่องไปกับโลกซาฟารี
พบกับ “เจ้าไลเกอร์แฝด” ผสมระหว่างสิงโตเพศผู้กับเสือเพศเมีย

ที่นี่มีเทศกาลดอกไม้บาน ช่วงฤดูร้อนนี้จะเป็นดอกกุหลาบ และดอกลิลลี่บาน ให้ชมทั้งทุ่งดอกไม้หลากสีสัน เอเวอร์แลนด์ ถูกขนานนามว่าเป็น “ดิสนีย์แลนด์เกาหลี” สวนเปิดในหุบเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศ ภายใน Festival World จะประกอบไปด้วย Global Fair, American Adventure, Magic Land, European Adventure และ Equatorial Adventure
การท่องเที่ยวภายในสวนสนุกแห่งนี้ ต้องทดลองสนุกกับเครื่องเล่นนานาชนิด เช่น รถไฟเหาะ หนอนสะบัด ชาร์ป โรงหนังสามมิติ บ้านผีสิง หมุนตีลังกาสองตลบ ถ้าเป็นเทศกาลหิมะก็จะได้สนุกแบบเล่นสโนว์สเลดแบบไม่จำกัดรอบและสุดท้าทาย กับการนั่งสโนว์บัตเตอร์ (ต้องสวมใส่รองเท้าหุ้มส้นเตี้ยเท่านั้น)
หรือจะไปเที่ยวสวนสนุก “ล็อตเต้เวิลด์” สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสนุกสนานแบบทันสมัยและเพลิดเพลินกับการช็อปปิ้งใน ห้างสรรพสินค้าล็อตเต้ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีก็ได้...



เกาหลีก็มี “ซากุระ”
เกาหลียังคงมีเสน่ห์ ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม อากาศเริ่มอุ่นขึ้นจากที่หิมะตกหนักและอากาศที่หนาวเกินไปในช่วงปลายปีที่ ผ่านมา
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศเริ่มดีขึ้นไม่หนาวจัด เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวไทย อีกทั้งราคาที่พักถูกทำให้จัดทัวร์ราคาถูกลงได้ แถมยังตรงกับช่วงปิดเทอมและมีวันหยุดติดต่อกันหลายวันในช่วงสงกรานต์อีก ประกอบกับผู้ปกครองต้องการจะ “พาลูก” ไปด้วย ทำให้เกาหลีมีจุดขายขึ้นมาทันที
เสน่ห์ของเกาหลีอยู่ตรงที่การท่องเที่ยวเกาหลีจับจุดได้ถูกต้อง อากาศในเดือนมีนาคมเป็นการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้เริ่มบานอากาศเริ่มอุ่นกำลังดี ประมาณ 10 กว่าองศาเซลเซียส ควรเตรียมเสื้อแจ็คเก็ตไปด้วย
“เมืองคิมแฮ” ในทุกๆ ปีช่วงต้นเดือน เมษายนจะมีต้นซากุระบานสะพรั่งพร้อมกันไม่แพ้ที่ญี่ปุ่น มีทางลอดอุโมงค์ต้นซากุระเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตรสวยงามมาก “คิม แฮ” อยู่ทิศตะวันตกของปูซาน ใกล้กับเมืองอุตสาหกรรม คือ มาซานและชางวัน เป็นเมืองท่าที่มีชื่อเสียงทางตอนใต้ของเกาหลี ถนนทุกเส้นจะมีต้นซากุระบานสะพรั่งเต็มต้นทุกปี
ที่นี่เป็นสถานที่ที่คนเกาหลีและนักท่องเที่ยวนิยมไปชมความงามของดอกซา กุระ โดยเฉพาะคู่รักหรือคู่ฮันนีมูนมักมาบอกรักกันที่นี่ ในช่วงต้นเดือนเมษายน เมื่อซากุระบานเต็มต้นชาวเมืองจะจัดงานรื่นเริงใกล้ๆ กับท่าเรือเป็นเวลา 12 วัน ผู้คนจะมารวมตัวกันในย่านที่ดอกไม้บานสะพรั่งเพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ
ดอกซากุระมีให้ชมได้ทั่วไป อย่างที่เกาะนัมมีที่คนไทยคุ้นเคยจากละครดัง “Winter Love Song” ซีรีส์โรแมนติก ระหว่างทางวิวทิวทัศน์เต็มไปด้วยดอกไม้ที่สวยสดงดงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิของ เกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกซากุระจะบานเต็มที่ในช่วงเดือนเมษายนนี้

ประเทศเกาหลี (South Korea) ได้รับสมญานามว่า “ดินแดนแห่งความสงบยามเช้า” มีขนบ
ธรรมเนียมที่สืบทอดมายาวนานถึง 5,000 ปี
คนเกาหลี จะเดินเร็วมาก และอาจจะมีการกระทบกระทั่งกัน แต่จะไม่มีการ “ขอโทษ” ถือเป็นเรื่องปกต

เมืองหลวง
กรุงโซล
ประชากร ประมาณ 10.5 ล้าน
ภาษา ใช้ภาษาเกาหลีเป็นหลัก คนเกาหลีส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศได้ การใช้บริการรถแท็กซี่ ควรเตรียมแผนที่ นามบัตร ข้อมูลโรงแรมให้พร้อม โดยเฉพาะชื่อสถานที่เป็นภาษาเกาหลี
เงินตรา สกุลวอน 1 วอน ประมาณ 0.0368 บาทไทย (สิงหาคม 2550) ควรแลกเงินเกาหลีที่สนามบินติดตัวไว้อย่างน้อย 6 แสนวอน หรือ 500 ดอลลาร์
บัตรเครดิต ใช้ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ เท่านั้น จะใช้เงิน “วอน” เป็นหลัก
โทรศัพท์ รหัสทางไกล +82 มือถือในเกาหลีจะใช้ระบบที่แตกต่างกับระบบมือถือของไทย ก่อนเดินทางควรเปิดบริการโทรศัพท์ข้ามแดนหรือใช้การ์ดโฟน ถ้าต้องการโทรกลับประเทศไทย
เวลา เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง
อากาศ มี 4 ฤดู คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิ อาจต่ำถึง -20 องศา ในเดือนมกราคมและ สูงถึง 35 องศา ในเดือนกรกฎาคม ส่วนเดือนธันวาคม เป็นช่วงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นอุณหภูมิราว -5 ถึง 15 องศา
เครื่องแต่งกาย ฤดูหนาวจะหนาวกว่าเมืองไทยมาก เตรียมครีมทาผิวเพื่อป้องกันผิวแตก ควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้ความอบอุ่น หมวก แว่นกันแดด ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้าแบบสวมสบายหรือรองเท้าผ้าใบ
วีซ่า ไปเกาหลีไม่ต้องขอวีซ่าเข้าเมือง แต่จะถูกเข้มงวดมากสำหรับคนไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปคนเดียวหรือไปเป็นกลุ่ม
ไทยและเกาหลีใต้ทำสัญญายกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่า) หนังสือเดินทางทุกประเภทโดยพำนักอยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 90 วัน



คำเตือ อาจถูกห้ามเข้าเมือง ถ้าสงสัยก็จะส่งกลับได้ตั้งแต่สนามบินสุวรรณภูมิ
โปรดระวัง เอกสารการเดินทางเป็นพิเศษขณะไปท่องเที่ยวในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน ควรพกพาเอกสารการเดินทางไว้ในที่ที่ปลอดภัยและถ่ายสำเนาแยกเก็บไว้อีก 1 ชุด
กรุงโซลมีระบบรถไฟฟ้าใต้ดินค่อน ข้างดี และเชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึง

ไฟฟ้าและปลั๊กไฟ
ใช้ไฟฟ้า 2 ระบบ คือ 110 และ 220 โวลต์ ความถี่ 60 เฮิรตซ์ ในโรงแรมและสำนักงานส่วนใหญ่จะใช้ปลั๊กแบบ 2 ขากลม ควรเตรียมเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าติดตัวไปด้วย เพื่อความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้า

กรณีฉุก เฉิน...ติดต่อ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล
โทรศัพท์ (822) 795-3098, 795-0095
โทรสาร (822) 798-3448
กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
โทรศัพท์ 981 7171
โทรสาร 575 1038










วันศุกร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ของฝากจากเกาหลี 2

ของฝากจากเกาหลี

หลายคนที่กำลังจะไปหรือ มีคนรู้จักไปเที่ยวเกาหลี แล้ว อยากซื้อของฝาก วันนี้รุ้งหาข้อมูลมาเก็บไว้เพื่อให้สำหรับใครหลายคนเอาไว้เป็นข้อมูล
1. โสมเกาหลี (GINSENG)

ตำราทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์หยางของจีนกล่าวไว้ว่า โสม ที่มีคุณภาพดีที่สุดอยู่ในเกาหลี โสมเกาหลีจึงมีราคาสูงเป็นพิเศษ เพราะเป็นโสมบำรุงพลังวังชาดั่งยาทิพย์ เพาะปลูกได้ยากมากไม่เพียงแต่มันโตช้ามาก แต่พื้นที่ที่เคยใช้เพาะปลูกจะต้องถูกทิ้งไว้นานถึง 15 ปี หลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์อาหารสมุนไพรต่างๆ เช่น ชาโสม ผงโสมยอดนิยมหรือ โสมสกัดเข้มข้น เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่คำนึงถึงสุขภาพ

การเลือกซื้อโสม ควรเลือกซื้อจากบริษัทผู้ผลิตที่มีคุณภาพรับรองอย่างถูกต้อง โสมแท้คุณภาพดีต้องมีรสชาติขม ชุ่มคอ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ควรเก็บไว้ในที่เย็น (ไม่ใช่เย็นจัด) ไม่ควรโดนแดด ความร้อนและความชื้นสูง เพราะจะเสียคุณค่าและอาจเกิดการเปลี่ยนสภาพของตัวโสมเอง รากของโสมที่นำมาผ่านขั้นตอนกรรมวิธีในการผลิตต่าง ๆ แล้วจะมีหลายประเภท เช่น ประเภทรากโสม รากโสมผสมน้ำผึ้ง โสมเป็นไซรับ โสมเป็นผง หรือโสมที่บรรจุเป็นแคปซูล


2. กิมจิ (KIMJI)

กิมจิจัดว่าเป็นเครื่องเคียงประจำโต๊ะสำหรับอาหารเกาหลีทุกมื้อก็ว่าได้ คู่กับข้าวสวยร้อนๆ กิมจิเป็นอาหารประเภทหมักดอง ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงชนิดหนึ่ง มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ มีส่วนของเครื่องปรุงที่ประกอบด้วย ผักต่างๆ ซอสมีรสเค็ม พริกแดงและกระเทียมผสมคลุกเคล้ากันอย่างดีจนมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ แตกต่างกันไปตามท้องถิ่น และประเพณีการปรุงของแต่ละภาค กิมจิ มีหลากหลายชนิดขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย กิมจิน้ำ และกิมจิผักกาดขาว เป็นที่นิยมในฤดูใบไม้ผลิ กิมจิแตงกวาสอดไส้ และกิมจิยอดหัวไช้เท้าอ่อน สำหรับฤดูร้อน ส่วนกิมจิหัวกะหล่ำ กิมจิหัวไช้ท้าว และ กิมจิอัลตาริ จะนิยมรับประทานในฤดูใบไม้ร่วง สำหรับ กิมจิ หลากหลายชนิดนั้นจะพบได้ในฤดูหนาว ซึ่งจะเก็บกักตุนไว้เรียกว่า กิมจัง


การเลือกซื้อกิมจิ หากต้องการแบบสดและธรรมชาติ ควรซื้อกลับในวันที่กลับบ้านเพื่อการเก็บรักษาที่นานขึ้น เนื่องจากกิมจิจะเก็บไว้ในตู้เย็นไม่เกิน 2 เดือน หากเก็บในช่องน้ำแข็งของตู้เย็นจะมีอายุนานขึ้น ที่สำคัญควรชิมรสชาติว่าถูกใจหรือไม่



3. สาหร่ายหิน (DOLGIM)

กิม ในภาษาเกาหลี คือ สาหร่าย สาหร่ายเกาหลีถือว่าเป็นแหล่งแร่ธาตุที่สำคัญสำหรับผู้รักสุขภาพ เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้น้ำและอากาศที่ทำให้เกิดมลภาวะอากาศเป็นพิษ ประเทศ เกาหลี ใต้มีสภาพภูมิประทศเป็นภูเขาถึงร้อยละ 70 จึงมีน้ำแร่ธรรมชาติอยู่ทั่วไปของประเทศ โดยเฉพาะในเขตทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ น้ำแร่เหล่านี้จะชำระแร่ธาตุต่างๆ ของดิน ลงไปยังทะเล สาหร่ายป่าธรรมชาติเหล่านี้จะได้รับสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ เมื่อเรารับประทานสาหร่ายเราจะได้รับแร่ธาตุสารอาหารที่จะช่วยให้เลือดของ เราเป็นด่างมากขึ้น ซึ่งหมายถึงสุขภาพที่ดีช่วยต่อต้านความเหนื่อยล้าและความกดดันในชีวิตประจำ วัน สาหร่าย มีมากมายหลายประเภท แต่ประเภทที่นิยมบริโภคมากที่สุดคือ สาหร่ายอบแห้งโดกิม เพราะต้องผ่านการอบด้วยน้ำมันงาที่บริสุทธิ์และเกลืออนามัยในอุณหภูมิที่ ความร้อนสูง ถือว่าเป็นอาการสุดยอดชนิดหนึ่งเนื่องจากคุณค่าทางโภชนาการที่สูง เนื่องจากช่วยลดคลอเรสเตอรอล เป็นแหล่งวิตามินบี 5 และ บี 2 บี 1 และบีรวม รวมถึงแร่เหล็กซึ่งช่วยป้องกันโรคเบาหวานและโรคหัวใจ สำหรับใครก็ตามที่ทานสาหร่ายอบแห้งกรอบเพื่อสุขภาพนี้ ประมาณ 1 กิโลกรัม หมายถึงการบริโภคผักสดประมาณ 5 กิโลกรัม และสาหร่ายของเกาหลีมีความแตกต่างจากญี่ปุ่นในเรื่องของการผลิตที่ใช้น้ำมัน งาและเกลือในการแต่งรส ส่วนญี่ปุ่นจะใช้ซอสในการแต่งรส

การเลือกซื้อสาหร่าย ควรเลือกซื้อชนิดที่แห้งกรอบผ่านการอบและปรุงด้วยสารธรรมชาติบริสุทธิ์ของ น้ำมันงาหรือเกลือเท่านั้น โดยไม่มีการปรุงแต่งหรือใช้สารกันบูด เพื่อการเก็บไว้บริโภคได้นานในประเทศที่มีอากาศร้อนอย่างประเทศไทย ควรฝากเพื่อนช่วยแนะนำเพราะเนื่องจากมีหลากหลายยี่ห้อ หลายคุณภาพ หลายราคามาก เหมือนกับการซื้อโสมเกาหลีในประเทศเกาหลี

4. ไวน์และสุราเกาหลี (TRADITIONAL LIQUORS & WINES)

เบียร์ของเกาหลี และโซจูเป็นเหล้ากลั่นชนิดหนึ่งที่นิยม หากคุณอยากจะลองลิ้มรสเหล้าโดยเฉพาะแบบโบราณของเกาหลีก็ได้เช่น ซองจู ไวน์ที่ทำจากข้าวรสเข้มข้น อิมขัมจู เหล้าผสมโสมและมักคอลลี่ ไวน์รสอ่อนที่ทำมาจากข้าวคล้ายกระแช่ของไทย เป็นต้น และแต่ละจังหวัดก็มีเหล้าพิเศษของตนเอง มุนแบจู – โซล, อิกางจู - จังหวัดซอลลาบุก-โด, อันดองโซจู – อันดอง, เคียงจูป๊อปจู-จังหวัดเคียงซางบก-โด, ชางกุนจู-วอนจู, แพจิลจู-คงจู เหล่านี้เป็นบรรดาเหล้าที่ขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่น

การเลือกซื้อ ควรลองซื้อขวดเล็กชิมดูก่อน และส่วนมากเหล้าเกาหลีจะทำมาจากข้าวผลไม้เป็นสำคัญ ราคาขึ้นอยู่กับความนุ่ม กลมกล่อมและความนิยม


5. ผ้าและเสื้อผ้า เกาหลีผลิตทั้งผ้าและเสื้อผ้าสำเร็จรูปคุณภาพดี ทำจากวัตถุดิบหลายชนิดหลากหลายหลากสีสันให้เป็นที่ถูกใจผู้ใช้ แฟชั่นเสื้อผ้าจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดู เลือกซื้อตามตลาดพื้นเมือง โดยเฉพาะ ตลาดโทงแดมุน ในส่วนของเครื่องหนังไม่ว่าจะเป็นเสื้อแจ็คเก็ต กระเป๋า รองเท้า เข็มขัด และอื่น ๆ ออกแบบตามแฟชั่น มีขายในราคาถูกเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว สามารถเลือกซื้อได้ที่ ถนนอิแทวอน ควรมีเพื่อนพาไปถึงแหล่งหรือร้านที่เชื่อถือได้ (ปัจจุบันนี้ราคาสินค้าเครื่องหนังเลียนแบบค่อนข้างราคาสูงเพราะผลิตจำนวน น้อยและหาซื้อได้ลำบากขึ้น)


6. เครื่องไฟฟ้า เกาหลีถือเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำซึ่งผลิตขึ้นเองใน ประเทศ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้เลือกมากและหลายระดับราคา ที่ย่าน ยงซาน หรือ เทคโนมาร์ท ในกรุงโซล (ไม่แนะนำให้ซื้อนัก เพราะราคาแพงกว่าที่ฮ่องกงหรือ สิงคโปร์ ถ้าเปรียบเทียบกับเมืองไทยก็อาจจะแพงกว่า)


7. รองเท้ากีฬาชั้นนำ เช่น รีบ๊อกซ์ ไนกี้ มิชิโนะ หาซื้อได้ถูกในเกาหลี ไม้เทนนิสและอุปกรณ์กีฬาอื่นๆ ตามร้านค้าที่มีป้ายเครื่องหมายถูกต้อง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลอดภาษี แต่ถ้าเป็นถุงมือหรืออุปกรณ์กอล์ฟควรซื้อที่ ถนนอิแทวิน (ซื้อของแท้ดีที่สุด ถ้าอยากได้เลียนแบบ สามารถซื้อได้ตามตลาดพื้นเมือง ทงแดมุน แต่ควรตรวจสอบคุณภาพดีๆ จะได้ทั้งของถูกและดี)

8. อัญมณีและเครื่องประดับ อัญมณีที่มีชื่อเสียงของเกาหลีหรือเขี้ยวหนุมาน (Amethyst) และบุษราคัม (Smoky Topaz) ซึ่งมีขายทั้งเม็ดร่วงและในรูปของเครื่องประดับต่างๆ เช่น ต่างหู สร้อยคอ แหวน และอื่นๆ ซื้อตามห้างสรรพสินค้าหรือโรงงานผู้ผลิตหรือ ดิวตี้ฟรี
9. สินค้าของที่ระลึกพื้นเมือง เช่น พวงกุญแจ แก้วน้ำ แก้วเหล้า ชุดน้ำชา กลอง ตุ๊กตาเกาหลี ช้อน ตะเกียบ ชามข้าว กระเป๋าสตางค์ ปากกา เป็นต้น ควรซื้อที่รถกะบะเล็กตามหน้าร้านอาหาร เพราะจะได้ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อที่อื่นๆ
10. ศูนย์รวมของพื้นบ้าน มีขนมท้องถิ่นหลากหลายรสชาติและรูปแบบ เช่น ท๊อฟฟี่หลากหลายรส ช็อกโกแลตกลิ่นและรสต่างๆ แยมส้มสุขภาพเพื่อชงดื่ม ชาโสมเกาหลี สบู่โสมเกาหลี เยลลี่โสม สาหร่ายผัดงาเกลือและน้ำตาล สาหร่ายปรุงรสคาลบี (วาซาบิ ไม้ไผ่ กิมจิ) ชิงราเมน กิมจิรสยอดนิยม หมอนเพื่อสุขภาพใบเล็กใบใหญ่ เครื่องดื่ม เครื่องสำอางโสมในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ครีมล้างหน้าโสม โคลนพอกหน้าโสม แผ่นมาร์กหน้า ไนท์ครีม เดย์ครีม เอ๊กเซ้นส์ เป็นต้น

อาหารเกาหลี


김치 (คนเกาหลีอ่านว่า คิมชี นะ ไม่ใช่กิมจิ) - พูดถึงอาหารเกาหลี ไม่พูดถึงกิมจิ คงโดนคนเกาหลีกระทืบตายเป็นแน่แท้ มันก็คือผักดองปรุงรส ซึ่งสามารถนำผักเกือบทุกชนิดมาทำเป็นกิมจิได้ ในรูปนี่เป็นกิมจิผักกาดดองนะ



갈비 (คาลบี) - เนื้อซี่โครงย่าง ... ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ ซักคำให้ลึกซึ้ง... แค่จินตนาการภาพเนื้อซี่โครงหมักปรุงรสเข้มข้นแล้วนำไปย่างบนเตาร้อนๆ

불고기 (พุลโกกี) - เนื้อย่างเกาหลีอันเลื่องชื่อนั่นเอง คนที่ไปกินมาแล้ว การันตีทุกคนว่าเหนือชั้นกว่าหมูกระทะที่เมืองไทย (สุดๆว้อย) เพราะจะเป็นเนื้อที่หมักอย่างดี และหอมหวานชวนน้ำลายสอ

삼계탕 (ซัมกเยทัง) - หรือคือไก่ตุ๋นโสมน่านเอง เค้าจะใส่ไก่ลงไปทั้งตัวลงในน้ำซุปตุ๋นโสมแล้วก็ยัดเป็นไส้ข้าวหรืออื่นๆ

.

자장면 (ชาจังมยอน) - บะหมี่ดำ ที่อาจจะเห็นในหนังบ่อยๆ เวลากินแล้วจะเลอะปากไปหมด ดูแล้วหมดกัน แต่รับรองว่าอร่อย แล้วก็ยังไว้กินย้อมใจช่วงขาดคู่ด้วย

.

비빔밥 (พีบิมบับ) - หรือที่เค้าเรียกกันว่าข้าวยำ เอาเครื่องปรุงมาหั่นซอย ให้เล็กๆ วางบนข้าวสวยแปะไข่ไว้ข้างบน พอจะกินก็คลุกมันซะ ไข่มันก็จะแตกโพละ แล้วก็เยิ้มออกมา แทรกซึมลงไปสู่ข้าว

김치 찌개 (กิมชี จิแก) - หรือแกงกิมจิ (เดี๊ยน กิมจิ ทำได้ทุกอย่างเค่อะ)รสชาติมันก้อคล้ายๆแกงส้มบ้านเราอ่ะนะ แต่เปรี้ยวกว่าหน่อย ส่วนใหญ่เค้าจะเสิร์ฟในชามร้อน แบบยังเดือดปุดๆ

.파전 (พาจอน) - จะเรียกว่าไงดี พิซซ่าเกาหลี ? แต่มันคล้ายๆหอยทอดไทยนะ - -" มันจะเป็นเหมือนไข่เจียวทะเล ใส่ต้นหอมหั่นยาว ใส่พริก(ไม่เผ็ด)ลองนึกเนื้อหอย กุ้ง ปลาหมึกแน่นๆ กับไข่เจียวกรอบๆ จิ้มกับแจ่วอร่อยๆ

김밥 (คิมบับ) - ข้าวห่อสาหร่าย ตอนแรกจะเป็นแท่งยาวๆ แล้วเค้าก็จะหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ จิ้มกะโชยุญี่ปุ่นหรือวาซาบิก็ได้ ตามร้านอาหารก็จะมีทำเป็นพิเศษหน่อย คือมีผัดซอสมาให้จิ้มราดด้วย แล้วแต่ร้านทำ

.

냉면 (แนง-มยอน) - บะหมี่เย็น ก็คือบะหมี่ที่อยู่ในน้ำซุปเย็น (พูดให้มันได้อะไรเนี่ย - -.) บางที่มีใส่น้ำแข็งด้วยอ่ะ เห็นเค้าบอกคนเกาหลีชอบกินตอนหน้าหนาว ประมาณว่ายึดหลักแบบหยินหยางมั้ง อากาศเย็น กินเย็น

อักษร เกาหลี



พยัญชนะเกาหลี 14 ตัว

อักษรเกาหลี เรียกว่าอักษรฮันกึล โดยผิวเผินแล้ว อักษรฮันกึลคล้ายกับอักษรรูปภาพเหมือนอักษรจีน แต่จริงๆ แล้ว อักษรฮันกึลอยู่ในระบบอักษรแทนเสียง (ตัวพยัญชนะเป็นอักษรรูปภาพเลียนแบบอวัยวะการออกเสียงในขณะที่ออกเสียงนั้นๆ สระเป็นอักษรรูปภาพใช้แนวคิดเชิงปรัชญา เกี่ยวกับ ท้องฟ้า พื้นดิน และมนุษย์)คือประกอบด้วยพยัญชนะและสระ ซึ่งมีทั้งหมด 24 ตัว ประกอบด้วย

  • พยัญชนะ 14 ตัว คือ ㄱ ㄴ ㄷ ㄹ ㅁ ㅂ ㅅ ㅇ ㅈ ㅊ ㅋ ㅌ ㅍ และ ㅎ
  • สระ 10 ตัว คือ ㅏ ㅑ ㅓ ㅕ ㅗ ㅛ ㅜ ㅠ ㅡและ ㅣ

พยัญชนะและสระดังกล่าวเรียกว่า พยัญชนะเดี่ยว และสระเดี่ยว ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เรียกว่าพยัญชนะซ้ำ และสระประสมด้วย คือ

  • พยัญชนะซ้ำ 5 ตัว ได้แก่ ㄲ ㄸ ㅃ ㅆ และ ㅉ
  • สระประสม 11 ตัว ได้แก่ ㅐ ㅒ ㅔ ㅖ ㅚ ㅟ ㅘ ㅙ ㅝ ㅞ และ ㅢ

อักษรเกาหลีมีลำดับการเขียนคล้ายอักษรจีน คือ ลากจากบนลงล่าง และจากซ้ายไปขวา นอกจากนี้การเขียนพยางค์หนึ่งๆ จะเริ่มเขียนจากพยัญชนะต้น ไปสระ และตัวสะกดตามลำดับ

เลขเกาหลี

จำนวน คำอ่าน ภาษาเขียน
1 ฮา-นา / ฮัน 하나/한
2 ทูล / ทู 둘/두
3 เซด / เซ 셋/세
4 เนด / เน 넷/네
5 ทา-ซอด 다섯
6 ยอ-ซอด 여섯
7 อิล-กบ 일곱
8 ยอ-ดอล 여덟
9 อา-ฮบ 아홉
10 ยอล

ตัว สะกด

แม้พยัญชนะเกาหลีจะมีหลายตัว และแต่ละตัวเสียงแตกต่างกัน แต่เมื่อนำมาใช้เป็นตัวสะกดแล้ว จะมีทั้งหมด 7 แม่เท่านั้น ดังตาราง จะเห็นว่าคล้ายคลึงกับภาษาไทย โดยที่ต่างออกไปคือ เสียง "ล" เมื่อนำไปเป็นตัวสะกดแล้วจะไม่ใช่เสียง "น" นอกจากนี้อาจพบตัวสะกดแบบที่มีพยัญชนะสะกดสองตัว เช่น 여덟, 앉다 ฯลฯ ตัวสะกดลักษณะนี้จะเลือกออกเสียงเฉพาะตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น และอีกตัวจะไม่ออกเสียง เช่น 여덟 อ่านว่า /ยอ-ดอล/ ไม่ใช่ /ยอ-ดอบ/ การที่จะทราบว่าตัวสะกดคู่จะออกเสียงพยัญชนะตัวใด แสดงดังตาราง อย่างไรก็ตามมีตัวสะกดคู่บางส่วนที่ออกเสียงไม่แน่นอนขึ้นกับคำ คือ ㄺ และ ㄼ

ตัวสะกด พยัญชนะ ตัวอย่าง
กง 성 = /ซอง/
กน ㄴ ㄵ ㄶ 원 = /วอน/
กม ㅁ ㄻ 남 = /นัม/
กก ㄱ ㄲ ㅋ ㄳ 밖 = /ผัก/
กด ㄷ ㅅ ㅆ ㅈ ㅉ ㅊ ㅌ ㅎ 이것 = /อี-กอด/
กบ ㅂ ㅍ ㅄ ㄿ 십 = /ฉิบ/, 없 = /ออบ/
กล ㄹ ㄽ ㄾ ㅀ 팔 = /พัล/
ไม่แน่นอน ㄺ ㄼ 여덟 = /ยอ-ดอล/

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การขอหนังสือเดินทาง

ก่อนไปเกาหลีเราต้องมีหนังสือเดินค่ะ ขั้นตอนการยื่นขอหนังสือเดินทางดีดังนี้ค่ะ

ก่อนที่เราจะไปเที่ยวเกาหลีค่ะ เราก็ต้องมีหนังสือเดินทางก่อน ไม่ว่าจะไปกันแบบส่วนตัว หรือไปกันแบบ
ไกด์ทัวร์ค่ะ

ขั้นตอนการยื่นขอ หนังสือเดินทาง

ขั้นตอนที่ 1 รับบัตรคิว

ขั้นตอนที่ 2 ยื่นบัตรประจำตัวประชาชนที่มีเลข 13 หลักหากไม่มีเลข 13 หลัก ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านมาแสดงพร้อมเอกสารหลักฐานอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบข้อมูล

ขั้นตอนที่ 3 เก็บข้อมูลชีวภาพ(วัดส่วนสูง เก็บลายพิมพ์นิ้วมือนิ้วชี้ขวาและนิ้วชี้ซ้ายด้วยเครื่องสแกนข้างละ 2 ครั้ง และถ่ายรูป 2 ครั้ง) - แจ้งความประสงค์ที่จะขอรับเล่มทางไปรษณีย์

ขั้นตอนที่ 4 ชำระค่าธรรมเนียม 1,000 บาท และค่าส่งไปรษณีย์ (35 บาท) รับใบเสร็จรับเงิน และรับใบนัดรับเล่มท่านจะได้รับหนังสือเดินทาง ดังนี้

หากยื่นที่กรมการ กงสุล ผู้ร้องสามารถรับหนังสือเดินทางได้ 2 วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง หากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5 วันทำการ ท หากยื่นที่สำนักงานสาขาในกรุงเทพฯ (ปิ่น เกล้าและบางนา) ผู้ร้องจะได้รับเล่มภายใน 3 วันทำการไม่นับวันยื่นคำร้อง หากรับทางไปรษณีย์จะได้รับใน 5 วันทำการ ท กรณียื่นคำร้องที่สำนักงานสาขาในต่างจังหวัดและขอให้จัดส่งทางไปรษณีย์ผู้ ร้อง (ในเขตเมือง) จะได้รับหนังสือเดินทางภายใน 5 วันทำการ ท โดยที่กระทรวงฯ ได้ติดตั้งเครื่องอ่านหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์จำลองเพื่อผู้ร้องสามารถ ทดสอบการผ่านเข้า-ออกท่าอากาศยานโดยอัตโนมัติไว้ 1 เครื่อง ที่กรมการกงสุล ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้ขอหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์มารับเล่มด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้ถือหนังสือเดินทางมีความคุ้นเคยกับการใช้หนังสือเดินทาง อิเล็กทรอนิกส์และระบบตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติ ในกรณีจำเป็น อาจมอบอำนาจให้ผู้อื่นรับแทนหรืออาจร้องขอให้จัดส่งทางไปรษณีย์ (EMS)
การให้ผู้อื่นรับ หนังสือเดินทาง แทน
ผู้ที่ยื่นคำร้องที่ไม่สามารถมารับหนังสือเดินทางเอง สามารถให้ผู้อื่นมารับแทนได้ โดยนำใบรับหนังสือเดินทางและบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ขอหนังสือเดิน ทาง และบัตรประชาชนของผู้รับแทน พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับแทน 1 ชุด เพื่อเป็นหลักฐานการรับหนังสือเดินทาง



หน่วย งานในสังกัด กองหนังสือเดินทาง กระทรวงการต่างประเทศ

กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ
- ที่อยู่ 123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210
- โทรศัพท์ 0-2981-7171-99 โทรสาร 0-2981-7256

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา
- ที่อยู่ ศูนย์การค้าเซ็ลทรัลซิตี้ บางนา บริเวณลานจอดรถ ชั้น P9
- โทรศัพท์ 0-2383-8401-3 โทรสาร 0-2383-8398

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปิ่นเกล้า

- ที่อยู่ อาคารธนาลงกรณ์ทาวเวอร์ (ชั้นใต้ดิน) แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม.10700
- โทรศัพท์ 0-2446-8111-2 โทรสาร 0-24468118-9

สำนักงานหนังสือเดินทางประจำศูนย์บริการการไปทำงานต่าง ประเทศ
- ที่อยู่ อาคารประกันสังคม (เขตพื้นที่ 3) ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400
- โทรศัพท์ 0-2446-8111-2 โทรสาร 0-24468118-9

สำนักงานหนังสือ เดินทางชั่วคราว จังหวัดขอนแก่น
- ที่อยู่ ศูนย์ราชการจังหวัดขอนแก่น ถนนศูนย์ราชการ จังหวัดขอนแก่น
- โทรศัพท์ 0-4324-2707, 0-4324-3462, 0-4324-2655 โทรสาร 0-4324-3441

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดเชียงใหม่
- ที่อยู่ ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถนนโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
- โทรศัพท์ 0-5389-1535-6 โทรสาร 0-5389-1534

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสงขลา
- ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา (หลังเก่า) ชั้น 1 ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.สงขลา 9000
- โทรศัพท์ 0-7432-6510-1 โทรสาร 0-7432-6506

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดอุบลราชธานี

- ที่อยู่ อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด
- โทรศัพท์ 0-4524-2313-4 โทรสาร 0-4524-2301

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ที่อยู่ ศาลาประชาคม ถนนหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000
- โทรศัพท์ 077-274940, 077-274942-3 โทรสาร 077-274941

สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว จังหวัดนครราชสีมา
- ที่อยู่ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ถนนมหาดไทย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000
- โทรศัพท์ 044-243-132, 044-243-124 โทรสาร 044-243-133