วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พระราชวังที่น่าท่องเที่ยว



พระราชวังเคียงบกกุง ( Gyeongbokgung Palace ) สุดปลายทางด้านเหนือของ ถนนเซจองโนของกรุงโซล เราจะเห็น พระราชวังเคียงบกกุ ตั้งโดดเด่นเป็นสง่า นี่คือ พระราชวังเคียงบกกุ พิพิธภัณท์พื้นบ้านพระราชวังเคียงบ๊อกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1394 สมัยราชวงศ์โซซอน เป็นศูนย์ บัญชาการและที่ประทับของกษัตริย์เมื่อสมัย 600ปี ก่อนเยี่ยมชมท้องพระโรง พลับพลากลางน้ำ ภายในพระราชวังมี พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านที่จำลองชีวิตความเป็นอยู่ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของชนชาติ เกาหลีในอดีต ตลอดจนผ่านชม ทำเนียบและบ้านประธานาธิบดีคนปัจจุบัน

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี (National Folk Museum of Korea) ตั้งอยู่ด้านหลังของพระราชวังเคียงบก ซื้อบัตรเพียงครั้งเดียวสามารถเข้าชมได้ทั้ง 2 แห่ง ภายในจัดแสดงวิถีการดำเนินชีวิตของคนเกาหลีในสมัยโบราณตั้งแต่ยุคก่อน ประวัติศาสตร์จนถึงสมัยราชวงศ์โชชอน แสดงเครื่องมือในการประกอบอาชีพ เครื่องแต่งกาย การประกอบอาหาร โดยเฉพาะการทำกิมจิ ที่ถือว่าเกาหลีเป็นต้นตำหรับที่แท้จริง

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี (National Folk Museum of Korea)

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งชาติเกาหลี ตั้งอยู่ด้านหลังของพระราชวังเคียงบก ซื้อบัตรเพียงครั้งเดียวสามารถเข้าชมได้ทั้ง 2 แห่ง ภายในจัดแสดงวิถีการดำเนินชีวิตของคนเกาหลีในสมัยโบราณตั้งแต่ยุคก่อน ประวัติศาสตร์จนถึงสมัยราชวงศ์โชชอน แสดงเครื่องมือในการประกอบอาชีพ เครื่องแต่งกาย การประกอบอาหาร โดยเฉพาะการทำกิมจิ ที่ถือว่าเกาหลีเป็นต้นตำหรับที่แท้จริง

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงกลางแจ้ง มีไม้แลหินแกะสลักเป็นรูปหน้าปีศาล ที่คนสมัยก่อนจะปักไว้หน้าหมู่บ้าน เชื่อว่าจะช่วยขับไล่ภูตผีปีศาจได้ และหินแกะสลักเป็นรูปสัตว์ประจำราศีเกิดทั้ง 12 ราศี ก็ตั้งอยู่ข้าง ๆ อาคารพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กที่ตั้งอยู่ทางด้านขวาก็ไม่น่าที่จะพลาดชม

• ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 3,000 วอน เยาวชน 7-18 ปี 1,500 วอน รวมค่าชมพระราชวังเคียงบก
• เวลาเปิดให้เข้าชม : 09.00-18.00 (เดือน พ.ย.-ก.พ.เปิดถึง 17.00 น.) ปิดวันอังคาร ต้องเข้าชมก่อนเวลาปิดอย่างน้อย 1 ชม

อนุสรณ์สถานแห่งสงครามเกาหลี (War Memorial of Korea)

ชนชาติเกาหลี จำต้องเข้าร่วมสงครามหลายครั้ง เพื่อป้องกันการรุกรานจากทั้งโซเวียต จีน และญี่ปุ่น รวมทั้งสงครามที่เจ็บปวดที่สุดที่ชนในชาติ ต้องมาสู้รบทำลายกัน เพียงเพราะผู้นำมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน หลังสงครามสิ้นสุดลง อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในสงคราม จึงได้ถูกนำมารวมไว้ที่นี่ เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจให้เห็นพิษภัยและความเจ็บปวดของสงคราม และเป็นอนุสรณ์ให้ทหารจากสหประชาชาติ ที่ส่งมาจากหลายประเทศที่พลีชีพในสงครามเกาหลี

ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สงคราม เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1994 ด้านหน้ามีอนุสาวรีย์ของเหล่าทหารหาญ เครื่องบินรบ รถถัง ตลอดจนอาวุธอื่น ๆ ที่ใช้ในสงครามเกาหลี โดยเฉพาะอนุสาวรีย์สองพี่น้อง (Statue of Brothers) สะท้อนให้เห็นการแบ่งแยกดินแดนของทั้งสองเกาหลี สะเทือนใจยิ่งนัก

วัดโชเกชา (jogyesa) เป็น วัดในศาสนาพุทธ สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1910 วัดนี้เป็นวัดของพุทธศาสนานิกายโชเก ถ้ามาเที่ยวในช่วงวันประสูติของพระพุทธเจ้า (วันวิสาขบูชา) พุทธศาสนิกชนก็พร้อมจะพร้อมใจกันนำโคมไฟมาแขวนไว้กันจนเต็มบริเวณวัด และมีขบวนแห่โคมไฟรูปดอกบัว ตั้งต้นขบวนกันที่สนามกีฬาทงแดมุน ผ่านหอคอยชงโน มาสิ้นสุดที่วัดโชเกชาพร้อมจัดงานฉลองทั้งวันทั้งคืน ทั่วบริเวณวัดมีสีสันสวยงามจากโคมไฟที่ถูกจุดเพื่อเป็นพุทธบูชาสว่างไสวไป ตลอดคืน

ด้านหน้าตรงประตูทางเข้าวัด

เข้ามาถึงด้านใน เข้าไปไหว้พระกันก่อน วิธีการไหว้พระคือจุดธูป 1 ดอก แล้วอธิฐานขอพร พอขอเสร็จ ก็ให้ปักธูปที่กระถางแล้วเดินวนรอบๆ เจดีย์ 3 รอบ โดยหยุดไหว้เจดีย์ให้ครบทั้ง 4 ทิศ เป็นอันเสร็จพิธี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น